ChatGPT 4.5 เป็นเวอร์ชันล่าสุดของโมเดลภาษา AI จาก OpenAI ที่มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่และการปรับปรุงประสิทธิภาพที่โดดเด่น โดยได้รับการออกแบบให้ฉลาดขึ้นและเป็นธรรมชาติมากขึ้นในการตอบสนองผู้ใช้ ในขณะที่องค์กรทั่วโลกต่างนำ AI ไปใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม (คาดว่า AI สร้างภาษาอาจสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจทั่วโลกได้ถึง 2.6–4.4 ล้านล้านดอลลาร์ ครอบคลุมกว่า 63 กรณีการใช้งาน masterofcode.com) ChatGPT 4.5 ก็ถูกจับตามองว่าจะเข้ามาขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ บทความนี้จะเจาะลึกฟีเจอร์ใหม่ๆ ของ ChatGPT 4.5 การเปรียบเทียบกับเวอร์ชันก่อนหน้า การใช้งานในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมถึงการเปรียบเทียบกับคู่แข่งสำคัญอย่าง Claude และ Google Gemini พร้อมทั้งแนะนำคีย์เวิร์ดสำคัญสำหรับ SEO
ฟีเจอร์ใหม่และการปรับปรุงประสิทธิภาพใน ChatGPT 4.5
ChatGPT 4.5 มาพร้อมกับการพัฒนาเบื้องหลังที่ทำให้โมเดลทรงพลังและชาญฉลาดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทีมวิจัย OpenAI ได้ใช้เทคนิคการฝึกอบรมรูปแบบใหม่ที่สามารถ สเกลโมเดลให้ใหญ่ขึ้นโดยใช้ข้อมูลที่ได้จากโมเดลขนาดเล็ก ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการกำกับทิศทางการตอบ (steerability) ความเข้าใจบริบทที่ซับซ้อน และการสนทนาที่เป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น openai.com ฟีเจอร์และความสามารถใหม่ๆ ที่โดดเด่นใน ChatGPT 4.5 ได้แก่:
- การสนทนาที่เป็นธรรมชาติและตอบสนองอารมณ์ได้ดีขึ้น: โมเดลมีความเข้าใจเจตนาของมนุษย์มากขึ้น และตีความคำถามที่ซับซ้อนหรือ จับสัญญาณแฝงระหว่างบรรทัดได้อย่างละเอียดอ่อน (มี “ความฉลาดทางอารมณ์” สูงขึ้น)openai.com
ส่งผลให้ตอบโต้ผู้ใช้ได้อย่างเป็นธรรมชาติ เหมือนกำลังสนทนากับมนุษย์ที่เข้าอกเข้าใจจริงๆ ตามที่ Sam Altman CEO ของ OpenAI กล่าวไว้ว่า “GPT-4.5 เป็นโมเดลแรกที่ให้ความรู้สึกเหมือนคุยกับคนที่รอบคอบจริงๆ”helicone.ai - ความคิดสร้างสรรค์และการเขียนที่เหนือกว่า: ChatGPT 4.5 แสดงความสามารถด้านความคิดสร้างสรรค์และเซนส์ด้านสุนทรียะที่ดีขึ้น สามารถช่วยงานเขียนเชิงสร้างสรรค์ การออกแบบเนื้อหา หรือการร่างบทความได้อย่างยอดเยี่ยมopenai.com
เนื้อหาที่โมเดลสร้างขึ้นมีโทนที่อบอุ่นและเป็นธรรมชาติ ช่วยให้ผู้อ่านรู้สึกมีส่วนร่วมมากขึ้น - ความแม่นยำของข้อมูลและลดการหลอน (Hallucination): ปัญหาการให้ข้อมูลผิดพลาดหรือ “หลอน” ลดลงอย่างมาก GPT-4.5 มีความถูกต้องเชิงข้อเท็จจริงสูงขึ้นและหลอนน้อยกว่าโมเดลก่อนหน้าopenai.com
openai.com ตามการวัดของบุคคลที่สามพบว่าอัตราการตอบผิดพลาดของ GPT-4.5 ลดลงจากเดิม (GPT-4 รุ่นก่อนหน้ามีอัตราหลอน ~61.8%) เหลือเพียง ~37.1% เท่านั้นhelicone.ai ซึ่งถือว่าพัฒนาขึ้นอย่างชัดเจน - การตอบสนองรวดเร็วและต่อเนื่อง: แม้จะเป็นโมเดลขนาดใหญ่ แต่ GPT-4.5 ได้รับการปรับปรุงให้ตอบสนองได้เร็วขึ้น รองรับบริบทการสนทนายาวๆ ได้ดียิ่งขึ้น (context window ขยายใหญ่ขึ้น) ลดความรู้สึกหน่วงหรือขาดตอนเมื่อใช้งานในบทสนทนาต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังรู้จักที่จะหยั่งเชิงผู้ใช้ ว่าเมื่อใดควรถามต่อเพื่อให้ข้อมูลเพิ่ม และเมื่อใดควรให้คำตอบที่ครบถ้วนสมบูรณ์ไปเลย openai.com ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ลื่นไหลกว่าเดิม
ฟีเจอร์เหล่านี้ทำให้ ChatGPT 4.5 โดดเด่นทั้งด้านคุณภาพคำตอบและประสบการณ์ใช้งาน เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ดังจะเห็นได้จากการทดสอบให้มนุษย์เปรียบเทียบคำตอบระหว่าง GPT-4.5 กับ GPT-4 รุ่นก่อน พบว่าผู้ใช้ ชอบคำตอบของ GPT-4.5 มากกว่า GPT-4 เดิมถึง ~57% ของชุดคำถามที่ทำการทดสอบทั้งหมด openai.com สะท้อนว่าการปรับปรุงด้านภาษาธรรมชาติและความเข้าใจบริบทของ GPT-4.5 ได้ผลจริงในการตอบโจทย์ผู้ใช้งานทั่วไป
เปรียบเทียบ ChatGPT 4.5 กับเวอร์ชันก่อนหน้า
ChatGPT 4.5 vs GPT-4: แม้ GPT-4 จะเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่จาก GPT-3.5 แต่ GPT-4.5 ก็ยังพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นในหลายด้าน โดย GPT-4 นั้นเป็นโมเดล มัลติโหมด (multimodal) รุ่นแรกของ OpenAI ที่รองรับทั้งอินพุตแบบข้อความและรูปภาพ และมีศักยภาพใกล้เคียงมนุษย์ในงานหลายๆ อย่าง เช่น สอบใบอนุญาตทนาย (Bar Exam) ที่ GPT-4 ทำคะแนนติดกลุ่ม ท็อป 10% ของผู้สอบ ในขณะที่ GPT-3.5 ทำได้ระดับท้ายๆ เพียงกลุ่ม ล่าง 10% เท่านั้น openai.com แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการใช้เหตุผลและความรู้ที่เพิ่มขึ้นมหาศาลของ GPT-4 เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน
GPT-4 มีจุดเด่นเรื่องความน่าเชื่อถือและความคิดสร้างสรรค์ที่มากขึ้น สามารถประมวลผลคำสั่งที่ซับซ้อนและมีความคลุมเครือได้ดีกว่า GPT-3.5 อย่างชัดเจน openai.com อย่างไรก็ตาม GPT-4.5 ได้เข้ามาต่อยอดจุดแข็งเหล่านี้อีกขั้น ด้วยการลดจุดอ่อนบางประการของ GPT-4 ลง เช่น การตอบผิดพลาดหรือหลอน และเพิ่มทักษะการสื่อสารเชิงมนุษย์เข้าไปอีก ตัวอย่างเช่น GPT-4.5 เข้าใจความต้องการและบริบทแฝงของมนุษย์ได้ดีขึ้น จึงให้คำตอบที่ตรงประเด็นและเข้าถึงอารมณ์ผู้ใช้มากกว่า GPT-4 openai.com นอกจากนี้ GPT-4.5 ยังมีความสามารถด้านความคิดสร้างสรรค์ที่สูงขึ้น ทำให้ช่วยงานเขียนบทความหรือสร้างคอนเทนต์ได้ดีกว่าเดิม
ในแง่โครงสร้างเบื้องหลัง GPT-4.5 ได้รับการปรับปรุงการฝึกสอน โดยใช้เทคนิคใหม่ที่ OpenAI พัฒนาขึ้นซึ่งช่วยให้โมเดลขนาดใหญ่เรียนรู้จากข้อมูลหรือฟีดแบ็กของโมเดลเล็กได้ openai.com เทคนิคนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโดยไม่ต้องอาศัยการเพิ่มขนาดข้อมูลแบบก้าวกระโดด ทำให้ GPT-4.5 สามารถ เข้าใจและตอบสนองได้สอดคล้องกับความตั้งใจของมนุษย์ มากขึ้นโดยไม่ต้องเพิ่มขนาดโมเดลจนเกินจำเป็น
ChatGPT 4.5 vs GPT-3.5: หากย้อนกลับไปดู GPT-3.5 (ซึ่งเป็นรุ่นที่ใช้ใน ChatGPT ช่วงแรก) จะเห็นพัฒนาการที่ก้าวกระโดดเมื่อมาถึง GPT-4 และ 4.5 GPT-3.5 สามารถสนทนาและตอบคำถามทั่วไปได้ดีแต่ยังมีข้อจำกัดหลายอย่าง เช่น ไม่สามารถประมวลผลบริบทยาวๆ ได้มาก, มักหลอนหรือให้ข้อมูลผิดในเรื่องที่ซับซ้อน, และขาดความสามารถด้านภาพ อย่างไรก็ดี GPT-4 และ 4.5 ได้เข้ามาแก้จุดอ่อนเหล่านั้น เช่น เพิ่มขนาด context window (จำนวนโทเค็นบริบทที่โมเดลจำได้) จากหลักพันใน GPT-3.5 ไปเป็นหมื่นหรือแสนใน GPT-4/4.5, เพิ่มความแม่นยำในการตอบคำถามเชิงข้อเท็จจริง และสามารถรับภาพประกอบคำถามได้ (ใน GPT-4/4.5) ดังนั้น ChatGPT 4.5 จึงอยู่บนรากฐานที่แข็งแกร่งของ GPT-4 และเสริมความสามารถให้ดียิ่งขึ้น จนกลายเป็น โมเดลที่ทรงพลังและรอบด้านที่สุดของ OpenAI ในปัจจุบัน openai.com โดยสรุป แต่ละขั้นของ ChatGPT ที่พัฒนาขึ้นมา ได้ยกระดับขีดความสามารถของ AI อย่างต่อเนื่อง GPT-3.5 ทำให้เกิดประสบการณ์แชทบ็อตที่ใช้งานได้จริง, GPT-4 เติมเต็มความสามารถระดับมนุษย์ในงานยากๆ และ GPT-4.5 ก็ขัดเกลาความสามารถเหล่านั้นให้ แม่นยำ ยืดหยุ่น และเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น ช่วยลดช่องว่างระหว่างการสนทนากับ AI และมนุษย์ให้แคบเข้าไปอีก
การใช้งาน ChatGPT 4.5 ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ
ด้วยความสามารถที่หลากหลายและชาญฉลาดขึ้น ChatGPT 4.5 จึงถูกนำไปประยุกต์ใช้ในหลายภาคส่วนของธุรกิจและอุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างโอกาสใหม่ๆ ดังนี้:
- งานบริการลูกค้า (Customer Support) 24/7: ใช้แชทบ็อตที่ขับเคลื่อนด้วย ChatGPT 4.5 ตอบคำถามลูกค้าอัตโนมัติตลอดเวลา ช่วยลดภาระงานมนุษย์และ ลดค่าใช้จ่ายการสนับสนุนลงได้ถึง ~45% โดยบางบริษัทประหยัดงบประมาณได้ 5–10 หมื่นดอลลาร์ต่อปี จากการใช้ระบบตอบแชทอัตโนมัติ latenode.com
นอกจากนี้โมเดลยังรองรับหลายภาษาและเข้าใจเจตนาของลูกค้าได้ดี ทำให้การโต้ตอบมีประสิทธิภาพและลูกค้าพึงพอใจมากขึ้น - การผลิตคอนเทนต์ที่รวดเร็วขึ้น: ทีมการตลาดและคอนเทนต์สามารถใช้ ChatGPT 4.5 เป็นผู้ช่วยเขียน ไม่ว่าจะเป็นบทความบล็อก เอกสารทางเทคนิค บทความ SEO หรือแม้แต่อีเมล โครงร่างและร่างแรกของเนื้อหาสามารถสร้างได้ในเวลาอันสั้น ช่วยย่นระยะเวลาการเขียนลงอย่างมาก แต่ยังคงรักษาคุณภาพและความถูกต้องของข้อมูลได้ดี latenode.com ผู้เขียนสามารถนำเนื้อหาที่ AI สร้างมาแก้ไขเพิ่มเติมให้เหมาะกับสไตล์ของตน ลดเวลาทำงานและเพิ่มปริมาณงานที่ทำได้
- ระบบการตลาดอัตโนมัติ: ChatGPT 4.5 สามารถช่วยวิเคราะห์กลุ่มลูกค้า เขียนข้อความสำหรับแคมเปญการตลาดทางอีเมล หรือโพสต์บนโซเชียลมีเดียที่ปรับแต่งให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายได้โดยอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มอัตราการมีส่วนร่วมของลูกค้า และอาจนำไปสู่ยอดขายที่สูงขึ้น บริษัทสามารถใช้โมเดลนี้ในการแบ่งกลุ่มลูกค้าและสร้างข้อความที่เหมาะสมกับแต่ละกลุ่มโดยแทบไม่ต้องใช้แรงคนเลย latenode.com ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิผลของการทำการตลาดดิจิทัล
- การวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างรายงาน: ในงานที่ต้องจัดการข้อมูลจำนวนมาก เช่น รายงานทางการเงินหรือข้อมูลการขาย ChatGPT 4.5 ช่วยสรุปข้อมูลดิบเป็นข้อค้นพบที่นำไปใช้ได้ (insights) และจัดทำรายงานอัตโนมัติ ช่วยประหยัดเวลาที่ต้องใช้ไปกับการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยมือหลายชั่วโมง latenode.com นอกจากนี้ยังลดความผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์ (human error) ทำให้รายงานมีความถูกต้องสม่ำเสมอมากขึ้น
- การสื่อสารและงานเอกสารภายในทีม: องค์กรสามารถใช้ ChatGPT 4.5 ช่วยจดบันทึกการประชุม สรุปอีเมล หรืออัปเดตสถานะโครงการแบบอัตโนมัติ เพื่อให้ทีมงานทุกคนรับรู้ข้อมูลตรงกัน ระบบสามารถรวมเข้ากับเครื่องมือสื่อสารภายในต่างๆ เพื่อ สร้างบันทึกการประชุมหรือรายการงานที่ต้องทำ โดยอัตโนมัติ ลดภาระงานธุรการและช่วยให้ทีมทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น latenode.com
ประโยชน์เชิงตัวเลข: จากกรณีการใช้งานจริง พบว่าการนำ ChatGPT 4.5 มาปรับใช้ในงานธุรกิจช่วยให้องค์กรได้รับผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม เช่น ประหยัดต้นทุนได้ถึง ~30% ต่อภารกิจ และบางบริษัทคาดว่าจะประหยัดเงินได้ถึง 20 ล้านดอลลาร์ในช่วงสามปี latenode.com อีกทั้งยัง เพิ่มความรวดเร็วในการดำเนินงานขึ้นถึง 80% (ตอบสนองลูกค้าได้เร็วขึ้นมาก) พนักงานหนึ่งคนสามารถ ประหยัดเวลางานซ้ำๆ ได้กว่า 140 ชั่วโมงต่อปี เนื่องจากมี AI มาช่วย latenode.com ขณะเดียวกันคุณภาพงานก็ดีขึ้นโดยความผิดพลาดลดลงประมาณ 50% เมื่อเทียบกับการทำงานด้วยมือทั้งหมด latenode.com ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า AI อย่าง ChatGPT 4.5 ไม่เพียงเป็นของเล่นไฮเทค แต่ยังสร้างผลตอบแทนทางธุรกิจที่จับต้องได้ในการดำเนินงานจริง
การยอมรับในวงกว้าง: ทุกวันนี้องค์กรขนาดใหญ่จำนวนมากต่างหันมาใช้ AI ภาษาเพื่อเสริมศักยภาพธุรกิจ กว่า 80% ของบริษัท Fortune 500 ระบุว่าพวกเขาได้นำ ChatGPT หรือโมเดลภาษาคล้ายกันมาใช้งานแล้ว และหลายแห่งเห็นการเติบโตของรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 3–15% หลังเริ่มใช้ AI เหล่านี้ในการดำเนินงาน latenode.com ตัวอย่างเช่น บริษัทด้านการเงินอย่าง Morgan Stanley ได้ใช้ GPT-4 สร้างแชทบ็อตภายในองค์กรเพื่อให้พนักงานค้นหาข้อมูลจากเอกสารจำนวนมหาศาลได้อย่างรวดเร็ว (แทนที่จะต้องเปิดอ่านทีละไฟล์ PDF) anadea.info หรือบริษัทฟินเทคอย่าง Stripe ที่ผสาน GPT-4 เพื่อช่วยตรวจจับธุรกรรมทุจริตและตอบคำถามลูกค้า ซึ่งช่วยลดภาระงานและเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการลูกค้าอย่างมาก anadea.info ในสายงานด้านผู้บริโภค Microsoft ได้นำ GPT-4 มาใช้ใน Bing เวอร์ชันใหม่ เพื่อสรุปคำตอบการค้นหาและทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเขียนคอนเทนต์ให้ผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นการร่างอีเมล ออกแบบคำถามตอบเล่น หรือแต่งกลอน anadea.info ขณะที่แอปพลิเคชันเพื่อสังคมอย่าง Be My Eyes ก็ใช้ความสามารถด้านวิเคราะห์ภาพของ GPT-4 ช่วยอธิบายภาพให้ผู้พิการทางสายตาฟัง หรือบอกขั้นตอนการทำสิ่งต่างๆ จากภาพที่ผู้ใช้ส่งมา anadea.info anadea.infoจะเห็นได้ว่าไม่ว่าอุตสาหกรรมเทคโนโลยี การเงิน การตลาด ไปจนถึงบริการสาธารณะและการแพทย์ ต่างก็เริ่มผสานรวม AI อย่าง ChatGPT เพื่อยกระดับทั้งประสิทธิภาพและนวัตกรรมในงานของตน
เปรียบเทียบกับคู่แข่ง (Claude และ Google Gemini)
ตลาดปัญญาประดิษฐ์ด้านภาษาในปัจจุบันมีการแข่งขันสูง นอกจาก OpenAI ChatGPT 4.5 แล้วยังมีคู่แข่งสำคัญที่พัฒนาโมเดลภาษาอัจฉริยะของตนเอง ได้แก่ Claude จากบริษัท Anthropic และ Gemini จาก Google (พัฒนาโดยทีม Google DeepMind) แต่ละโมเดลมีจุดเด่นเฉพาะตัวและต่างพยายามช่วงชิงความเป็นผู้นำในด้านประสิทธิภาพและการใช้งาน ดังนี้:
Claude – ผู้ท้าชิงจาก Anthropic
Claude เป็นโมเดลภาษาใหญ่ (LLM) ที่พัฒนาโดย Anthropic ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้าน AI ที่มุ่งเน้นเรื่องความปลอดภัยและจริยธรรมของปัญญาประดิษฐ์ จุดเด่นของ Claude คือการออกแบบให้ สุภาพและปลอดภัย โดยใช้หลักการ Constitutional AI ที่กำหนด “รัฐธรรมนูญ” ให้ AI ปฏิบัติตามเพื่อลดคำตอบที่ไม่เหมาะสม Claude ได้รับการยอมรับว่ามี น้ำเสียงการตอบที่เป็นธรรมชาติและสม่ำเสมอ ใกล้เคียงมนุษย์ อีกทั้งยังสามารถปรับโทนภาษาได้ตามต้องการของผู้ใช้
ในแง่ขีดความสามารถ Claude (รุ่นล่าสุดในปี 2024) มี context window ขนาดใหญ่มหาศาล ทำสถิติที่ 100,000 – 200,000 โทเค็น ซึ่งหมายความว่าสามารถประมวลผลข้อความยาวๆ หรือเอกสารหลายร้อยหน้าภายในคำถามเดียวได้ (เปรียบเทียบกับ ChatGPT 4.5 ที่รองรับบริบทประมาณ 128,000 โทเค็น) helicone.ai ความได้เปรียบนี้ทำให้ Claude เหมาะกับงานสรุปเอกสารหรือวิเคราะห์ข้อมูลชุดใหญ่ๆ เช่น การสรุปรายงานวิจัยยาวๆ หรือประมวลผลประวัติการแชทยาวนานในการสนทนาต่อเนื่อง
ด้านประสิทธิภาพ Claude ได้แสดงศักยภาพยอดเยี่ยมในบางด้านจนถึงขั้นมีรายงานว่าเอาชนะ GPT-4 ในการทดสอบบางรายการ เช่น HumanEval (การเขียนโค้ดตามโจทย์โปรแกรม) และ MMLU (ความรู้รอบด้านหลายสาขาวิชา) โดย Claude 3.5 “Sonnet” ทำคะแนนรวมสูงที่สุดเมื่อเทียบกับ GPT-4 (เรียกในที่นี้ว่า GPT-4o) ในชุดการวัดเหล่านี้evolution.ai ซึ่งชี้ให้เห็นว่า Claude มีความเก่งกาจทั้งในการให้เหตุผลเชิงเทคนิคและความรู้ทั่วไป ถึงแม้การประเมินประสิทธิภาพของโมเดล AI จะขึ้นอยู่กับเกณฑ์ที่ใช้วัด แต่ Claude ก็ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในโมเดลที่ทรงพลังและน่าเชื่อถือที่สุดขณะนี้
นอกจากนี้ Anthropic ยังประกาศแผนพัฒนา Claude รุ่นต่อไป (Claude 3) ที่อาจรองรับบริบทยาวถึง กว่า 1 ล้านโทเค็น (ถ้าพวกเขาเปิดใช้งานให้ผู้ใช้) fireflies.ai ซึ่งจะขยายขีดจำกัดการประมวลผลข้อมูลให้ไกลยิ่งขึ้น และอาจท้าชนกับ Gemini ของ Google ในเรื่องบริบทการสนทนายาวสุดขั้ว อย่างไรก็ตาม ในด้านความพร้อมใช้งานเชิงพาณิชย์ ChatGPT ของ OpenAI ยังคงได้เปรียบด้วยระบบผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย (ทั้งแอปพลิเคชัน ChatGPT และ API สำหรับนักพัฒนา) ขณะที่ Claude มักเปิดให้ใช้งานผ่าน API และพันธมิตรเป็นหลัก นอกจากนี้ OpenAI ยังมีการปรับลดราคาค่าใช้บริการ API อย่างต่อเนื่อง ทำให้การแข่งขันด้านต้นทุนเข้มข้นขึ้น ซึ่งสุดท้ายจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งานที่มีทางเลือกมากขึ้นและราคาที่สมเหตุสมผล
Google Gemini – ยักษ์ใหญ่สายมัลติโหมด
Google Gemini เป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่พัฒนาโดยความร่วมมือระหว่าง Google และ DeepMind โดยถูกวางตัวเป็นคู่แข่งโดยตรงของ GPT-4/4.5 แต่มีแนวทางที่แตกต่างในหลายมิติ Gemini ถูกออกแบบให้เป็น โมเดลมัลติโหมดเต็มรูปแบบ ซึ่งหมายความว่าสามารถรับอินพุตและสร้างผลลัพธ์ได้หลายประเภทข้อมูล ไม่ว่าจะเป็น ข้อความ, รูปภาพ, เสียง, หรือวิดีโอ ครบวงจร เรียกได้ว่าเก่งทั้งด้านภาษาและด้านสื่อประมวลผลอื่นๆ ในขณะที่ GPT-4.5 สามารถประมวลผลรูปภาพได้บ้าง Gemini ก้าวไปอีกขั้นด้วยการผสานข้อมูลหลากหลายประเภทในการตอบสนองเดียวกัน ตัวอย่างเช่น สามารถดูภาพหรือฟังเสียงคำถามแล้วตอบเป็นข้อความหรือสร้างภาพใหม่ประกอบคำตอบได้เลย fireflies.ai จุดนี้ทำให้ Gemini มีศักยภาพสูงในงานที่ต้องใช้หลายสื่อร่วมกัน เช่น ผู้ช่วยส่วนตัวที่คุณพูดด้วยเสียงและมันตอบด้วยข้อความพร้อมภาพประกอบ เป็นต้น
อีกหนึ่งจุดเด่นทางสถาปัตยกรรมของ Google Gemini คือการใช้เทคนิค Mixture-of-Experts (MoE) ซึ่งแบ่งโมเดลออกเป็นโมดูลผู้เชี่ยวชาญย่อยๆ หลายตัว แต่ละโมดูลถูกฝึกกับงานหรือข้อมูลเฉพาะทาง เมื่อผู้ใช้ถามคำถาม ตัวโมเดล Gemini จะเลือกโมดูลผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องที่สุดมาร่วมกันหาคำตอบ ทำให้คำตอบที่ได้มีความเฉพาะเจาะจงและแม่นยำในสาขานั้นๆ เปรียบเหมือนเรามีผู้เชี่ยวชาญหลายคนในทีมและเลือกคนที่มีความรู้ตรงที่สุดมาช่วยตอบ fireflies.ai แนวทางนี้ต่างจาก GPT ของ OpenAI ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบ Transformer ขนาดใหญ่ที่รวมทุกอย่างไว้ในโมเดลเดียว การใช้ MoE อาจช่วยให้ Gemini เชี่ยวชาญหลายด้านพร้อมกันได้โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดโมเดลมหาศาล และอาจประมวลผลได้รวดเร็วกว่าเมื่อเลือกโมดูลที่เหมาะสมเข้ามาทำงาน
ขนาดบริบทและข้อมูลอัปเดต: Google Gemini เปิดตัวครั้งแรกปลายปี 2023 โดยมีรุ่นย่อยหลายระดับ สำหรับรุ่นท็อปอย่าง Gemini 1.5 Pro มีขนาดบริบทที่สร้างความฮือฮาถึง 1 ล้านโทเค็น ซึ่งถือเป็น context window ที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาโมเดลภาษาขณะนี้ ใหญ่กว่า GPT-4 (ซึ่งสูงสุดราว 128k ในรุ่น GPT-4 Turbo) ถึงเกือบ 8 เท่า fireflies.ai fireflies.ai ความจุบริบทระดับนี้เปิดโอกาสให้ Gemini อ่านข้อมูลปริมาณมหาศาลหรือสนทนายาวๆ ได้โดยไม่ลืมเนื้อหาก่อนหน้า ขณะเดียวกัน Gemini ยังถูกออกแบบให้ เชื่อมต่อกับข้อมูลเรียลไทม์ และเข้าถึงเว็บได้ ทำให้มีข้อมูลอัปเดตทันสมัยกว่า ChatGPT ที่ถูกจำกัดความรู้ไว้ถึงแค่ข้อมูลการฝึก (อย่างไรก็ตาม ChatGPT เวอร์ชันใหม่ๆ ก็เริ่มเพิ่มความสามารถเชื่อมต่อเว็บเช่นกัน) จากคุณสมบัติเหล่านี้ ส่งผลให้บางงาน Gemini สามารถทำได้ดีกว่า GPT-4 เช่น งานที่ต้องเข้าใจบริบทกว้างๆ หรือการสร้างสรรค์เนื้อหาที่แหวกแนวหลากหลายรูปแบบ ในการเปรียบเทียบเบนช์มาร์กระหว่างสองโมเดล มีรายงานว่า Gemini ทำคะแนนเหนือกว่า GPT-4 ในด้านความเข้าใจที่ครอบคลุม, การให้เหตุผลเชิงตรรกะ, และการสร้างข้อความเชิงสร้างสรรค์ ขณะที่ GPT-4 ยังคงได้เปรียบในเรื่องการให้เหตุผลเชิงสามัญสำนึกและงานประจำวันทั่วไปที่คำถามชัดเจนกว่า fireflies.ai นอกจากนี้ ในการประมวลผลภาพขั้นสูง พบว่า Gemini ทำได้ดีในการ สร้างสรรค์ข้ามสื่อ (เช่น สร้างภาพจากคำบรรยายที่ซับซ้อน) ส่วน GPT-4 (GPT-4V) ทำได้ดีในการวิเคราะห์ภาพแต่ก็ยังตามหลังเล็กน้อยในงานสร้างภาพใหม่ๆ จากบริบทข้อความ fireflies.ai อย่างไรก็ดี ChatGPT 4.5 ก็ยังมีจุดแข็งสำคัญเมื่อเทียบกับ Gemini โดยเฉพาะในงานด้านข้อความและความรู้ทั่วไปที่ต้องการความแม่นยำสูงและความสม่ำเสมอในการตอบ อีกทั้งระบบนิเวศของ OpenAI ก็แข็งแกร่งด้วยชุมชนนักพัฒนาจำนวนมากและการผนวกรวมเข้ากับเครื่องมือต่างๆ (เช่น ปลั๊กอินของ ChatGPT ที่มีออกมามากมาย) ผู้ใช้ปลายทางอาจมองว่า ChatGPT ใช้งานง่ายและเชื่อถือได้ในวงกว้าง ขณะที่ Gemini แม้จะทรงพลังในแง่เทคโนโลยี แต่การเข้าถึงอาจยังจำกัดอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ Google และนักพัฒนาที่ใช้ Google Cloud เท่านั้นในช่วงแรก
ภาพรวมการแข่งขัน: การแข่งขันระหว่าง OpenAI (ChatGPT) กับคู่แข่งอย่าง Anthropic (Claude) และ Google (Gemini) กำลังผลักดันให้เทคโนโลยี AI ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว แต่ละเจ้าต่างเร่งปรับปรุงโมเดลของตนอย่างต่อเนื่อง เช่น OpenAI ที่เตรียมพัฒนา GPT-5 ในอนาคต, Anthropic ที่มุ่งสู่ Claude รุ่นใหม่ที่ปลอดภัยและเก่งขึ้น, และ Google ที่ใช้ข้อได้เปรียบด้านข้อมูลมหาศาลและความเชี่ยวชาญด้านระบบกระจาย (distributed systems) มาขยายขีดความสามารถของ Gemini สำหรับผู้ใช้งานและธุรกิจ สิ่งนี้หมายถึงทางเลือกที่มากขึ้นและความสามารถที่สูงขึ้นจาก AI เหล่านี้ ไม่ว่าจะเลือกใช้ ChatGPT 4.5 หรือคู่แข่งรายใด องค์กรก็ควรพิจารณาจุดเด่นและข้อจำกัดของแต่ละโมเดลให้เหมาะกับความต้องการ เช่น หากงานของคุณต้องการประมวลผลเอกสารยาวมากๆ Claude อาจตอบโจทย์เรื่องบริบทที่ยาว หากต้องการ AI ที่เข้าใจหลายสื่อ Gemini ก็มีความน่าสนใจ แต่ถ้าต้องการผู้ช่วยการเขียนเชิงลึกที่เชื่อถือได้ ChatGPT 4.5 ก็ยังคงเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ในตลาด
สรุป
ChatGPT 4.5 ถือเป็นอีกก้าวของวิวัฒนาการ AI ด้านภาษา ที่นำเสนอความสามารถที่ชาญฉลาดขึ้น ทั้งการสนทนาที่ลื่นไหลดั่งมนุษย์ ความแม่นยำของข้อมูลที่น่าเชื่อถือขึ้น และความสามารถในการช่วยงานเชิงสร้างสรรค์และวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อเทียบกับเวอร์ชันก่อนๆ อย่าง GPT-3.5 และ GPT-4 แล้ว GPT-4.5 ได้แสดงให้เห็นถึงการปรับปรุงที่มีนัยสำคัญซึ่งแก้ไขจุดอ่อนและเติมเต็มช่องว่างหลายอย่างของรุ่นก่อนหน้า จนกลายเป็นโมเดลที่ทรงพลังและพร้อมใช้งานในระดับองค์กรมากที่สุดรุ่นหนึ่งในปัจจุบัน
ในมุมของการนำไปใช้จริง ChatGPT 4.5 ได้รับความสนใจจากหลากหลายวงการ ไม่ว่าจะเป็นการยกระดับบริการลูกค้า การตลาด การผลิตเนื้อหา การเงิน หรือแม้แต่การแพทย์และการศึกษา ศักยภาพในการประหยัดต้นทุนและเวลา รวมถึงเพิ่มคุณภาพของงาน ทำให้ผู้บริหารและผู้ประกอบการต่างตื่นตัวที่จะลองนำ AI ตัวนี้มาเสริมทัพ ทีมงานหรือกระบวนการทำงานของตน ผลลัพธ์ที่ได้ในหลายกรณีก็เป็นรูปธรรม เช่น ลดค่าใช้จ่ายลง เพิ่มรายได้ หรือเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า ซึ่งยืนยันว่า AI สามารถสร้างคุณค่าให้ธุรกิจได้จริง ไม่ใช่แค่แนวคิดในเชิงทฤษฎีเท่านั้น
แม้คู่แข่งอย่าง Claude และ Google Gemini จะนำเสนอความสามารถที่น่าประทับใจและมีจุดแข็งเฉพาะตัว แต่ ChatGPT 4.5 ก็ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำไว้อย่างแข็งแกร่งด้วยความสมดุลของความสามารถด้านต่างๆ และฐานผู้ใช้ที่กว้างขวาง ในโลกของ AI ที่หมุนเร็วนี้ เราคงจะได้เห็นการพัฒนาต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง ซึ่งสุดท้ายแล้วผู้ได้รับประโยชน์สูงสุดก็คือผู้ใช้งานทั่วไปและภาคธุรกิจ ที่จะได้มีเครื่องมือทรงพลังยิ่งขึ้นไปอีกในอนาคตอันใกล้
#ChatGPT 4.5, ฟีเจอร์ใหม่ ChatGPT 4.5, ประสิทธิภาพ ChatGPT 4.5, เปรียบเทียบ ChatGPT 4.5 กับ GPT-4, การใช้งาน ChatGPT 4.5 ในธุรกิจ, ChatGPT 4.5 ในอุตสาหกรรม, เปรียบเทียบ ChatGPT 4.5 กับ Claude, เปรียบเทียบ ChatGPT 4.5 กับ Google Gemini, AI แชทบอท 2025, ChatGPT 4.5 คืออะไร, คู่แข่ง ChatGPT
อ้างอิง:
- OpenAI, “Introducing GPT-4.5 – A research preview of our strongest GPT model,” 2025. [Online]. Available:
openai.com , openai.com (รายละเอียดเทคนิคการฝึกโมเดล GPT-4.5 และการประเมินโดยผู้ทดสอบจริง แสดงให้เห็นว่า GPT-4.5 เข้าใจบริบทและเจตนามนุษย์ได้ดีขึ้น และผู้ใช้ชอบคำตอบมากกว่า GPT-4 เดิม)
- Yusuf Ishola, “GPT 4.5 Released: Here Are the Benchmarks,” Helicone Blog, Mar. 1, 2025.helicone.ai
helicone.ai (สรุปฟีเจอร์ใหม่ GPT-4.5: การสนทนาธรรมชาติ อีคิวสูงขึ้น อัตราการหลอนลดลง พร้อมคำกล่าวจาก Sam Altman ว่า GPT-4.5 ให้ความรู้สึกเหมือนคุยกับคนรอบคอบจริงๆ) - OpenAI, “GPT-4 Technical Report,” 2023. openai.com openai.com (รายงานเปรียบเทียบประสิทธิภาพ GPT-4 กับ GPT-3.5 เช่น GPT-4 สอบ Bar ได้คะแนนติดท็อป 10% เทียบกับ GPT-3.5 ที่ระดับล่าง 10% และ GPT-4 สามารถจัดการคำสั่งซับซ้อนได้ดีกว่า GPT-3.5 อย่างมีนัยสำคัญ)
- George Miloradovich, “5 Real-World Use Cases of ChatGPT-4.5 That Save Time & Money,” Latenode, Mar. 1, 2025. latenode.com latenode.com (กรณีศึกษาการใช้ ChatGPT-4.5 ในธุรกิจ 5 ด้านหลัก เช่น งานซัพพอร์ตลูกค้า, การผลิตคอนเทนต์, การตลาด, การวิเคราะห์ข้อมูล, และการสื่อสารภายใน พร้อมสถิติผลลัพธ์ เช่น ลดค่าใช้จ่ายได้ ~30-45%, ตอบสนองเร็วขึ้น 80%, ลดความผิดพลาด 50%)
- Master of Code Global, “ChatGPT Statistics in Business [January 2025],” 2025. masterofcode.com
masterofcode.com (สถิติการนำ ChatGPT ไปใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ จาก McKinsey และ Statista: AI ภาษาอาจสร้างมูลค่า $2.6-4.4 ล้านล้านทั่วอุตสาหกรรม, ภาคเทคโนโลยีและการศึกษานำโด่งในการใช้งาน ChatGPT) - Anadea, “GPT-4 Use Cases – How GPT-4 is used by different companies,” 2023.anadea.info anadea.info
(ตัวอย่างการใช้ GPT-4 ในภาคธุรกิจจริง เช่น Bing ของ Microsoft ใช้ตอบคำค้นหาและช่วยเขียนเนื้อหา, Morgan Stanley ใช้ GPT-4 ค้นข้อมูลภายในองค์กร) - Evolution AI, “Claude vs. GPT-4o vs. Gemini: A Comprehensive Comparison,” Aug. 5, 2024. evolution.ai
(บทวิเคราะห์เปรียบเทียบ Claude 3.5 Sonnet, GPT-4o และ Google Gemini ระบุว่า Claude 3.5 ทำคะแนนสูงสุดใน HumanEval และ MMLU ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความสามารถด้านการเขียนโค้ดและความรู้รอบด้าน) - Fireflies.ai, “Gemini vs. GPT-4: Which one is better?” 2024.fireflies.ai fireflies.ai (ข้อมูลเปรียบเทียบคุณสมบัติ Gemini กับ GPT-4: Gemini มี context window สูงสุดถึง 1 ล้านโทเค็น เทียบกับ GPT-4 สูงสุด ~128k และผลการทดสอบระบุว่า Gemini เด่นกว่าในงานสร้างสรรค์และการให้เหตุผลเชิงลึกบางอย่าง ส่วน GPT-4 ยังดีกว่าในงานทั่วไปและเหตุผลสามัญ)
- Backlinko, “Google Gemini vs ChatGPT: Which AI Chatbot Is Better in 2025?” Mar. 4, 2025. fireflies.ai
fireflies.ai (บทความเปรียบเทียบ ChatGPT กับ Gemini สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป เน้นความแตกต่างเรื่องการรองรับมัลติมีเดีย, ขนาดบริบท และการมีฟีเจอร์สนทนาด้วยเสียงแบบเรียลไทม์ของ Gemini พร้อมกล่าวถึงแผนของ Claude 3 ที่จะรองรับบริบทกว่า 1 ล้านโทเค็นเช่นกัน)